ทองคำ(Gold) เป็นโลหะชนิดหนึ่ง โดยเป็นแร่ธรรมชาติซึ่งมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่มีความคงทนต่อการผุกร่อน ซึ่งมนุษย์นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องประดับตั้งแต่สมัยโบราณ นอกจากนั้นยังนำมาทำเป็นเหรียญ หรือตัวแปรค่าเงินสำหรับกองทุนสำรองเงินตราทั่วโลกอีกด้วย
คุณสมบัติของทองคำ
ทองคำเป็นโลหะที่อ่อนและเหนียว และยังเป็นโลหะที่ไม่ละลายในกรดชนิดใดเลย แต่สามารถละลายได้อย่างช้าๆ คุณสมบัติของทองคำอีกประการหนึ่งคือ มีความแวววาวอยู่ตลอดเวลา เมื่อสัมผัสถูกอากาศสีของทองจะไม่หมอง และไม่เกิดสนิมอีกด้วย โดยตัวทองคำเองนั้นเราสามารถยืดและแผ่ขยายออกได้ทั้งเป็นเส้นลวดยาวถึง 8,000 เมตร หรืออาจจะตีแผ่ออกเป็นแผ่นบางๆได้ถึง 100 ตารางฟุตเลยทีเดียว แถมทองคำยังเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดีอีกเช่นกัน
ทองคำได้รับความนิยมสูงสุดในวงการเครื่องประดับทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศทั่วโลก เพราะเป็นโลหะที่มีค่าชนิดเดียวที่มีคุณสมบัติพื้นฐาน 4 ประการ ดังนี้
- ความงดงามมันวาว (Lustre) : มีสีสันที่สวยงามตามธรรมชาติผสานกับความมันวาว ทำให้เกิดความงดงามมันวาวในตัวของมันเอง
- ความคงทน (Durable) : มีความคงทนแข็งแรง ไม่ขึ้นสนิม ไม่หมองหม่น และไม่ผุกร่อนได้ง่าย
- หายาก (Rarity) : เป็นโลหะชนิดหนึ่งที่หาได้ยาก เนื่องจากอยู่ชั้นใต้ดินลึกลงไปหลายสิบเมตร จึงทำให้ขุดเหมืองลงไปค่อนข้างยากและเสียค่าใช้จ่ายงบประมาณในการขุดทองค่อนข้างสูง จึงทำให้ค่าของทองคำสูงตามไปด้วย
- นำกลับไปใช้ได้ใหม่ (Reuseable) : สามารถนำกลับมาหลอมใหม่ได้นับครั้งไม่ถ้วน จึงทำให้ทองคำนิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับในทุกรูปแบบ เพราะเป็นโลหะที่มีความเหนียว และอ่อนนิ่มสามารถนำมาขึ้นรูปได้โดยง่าย
การกำหนดคุณภาพของทองคำ
ทองคำบริสุทธิ์ 99.99% หรือที่เรียกกันว่า ทองคำ 24 กะรัต(Karat) ในระบบของสากล ซึ่งใช้เกณฑ์การบ่งบอกคุณภาพของเนื้อทองคำโดยมีชื่อเรียกว่า ทองเค ซึ่งทองคำบริสุทธิ์ 24 กะรัตนั้นจะไม่มีสารอื่นเจือปนอยูเลย แต่หากมีความบริสุทธิ์ของทองคำลดต่ำลงมานั้น ก็แสดงให้เห็นว่ามีโลหะประเภทอื่นเจือปะมากขึ้นตามสัดส่วน เช่นทอง 18 กะรัต หมายถึงทองที่มีเนื้อทองบริสุทธิ์อยู่ 18 ส่วน และมีโลหะชนิดอื่นเจือปนอยู่ 10 ส่วน เป็นต้น
กะรัต
|
สัญลักษณ์
|
เปอร์เซ็นต์
|
เฉดสีที่ได้
|
นิยมในประเทศ
|
24 |
24K |
100% |
ทอง |
สวิสเซอร์แลนด์ |
22 |
22K |
91.7% |
|
|
21 |
21K |
84.5% |
|
|
18 |
18K |
75% |
|
|
14 |
14K |
58.3% |
|
|
10 |
10K |
41.6% |
|
|
9 |
9K |
37.5% |
|
|
8 |
8K |
33.3% |
|
|
สำหรับประเทศไทยนั้นใช้มาตรฐานความบริสุทธิ์ของทองคำอยู่ที่ 96.5% หากเปรียบเทียบกะรัตแล้วจะอยู่ที่ 23.16K ซึ่งสีทองที่ได้นั้นจะเป็นสีเหลืองเข้ม และมีความแข็งของเนื้อทองพอเหมาะ เหมาะสำหรับนำมาทำเป็นเครื่องประดับมากที่สุด
หน่วยวัดน้ำหนักทองคำ
- กรัม(Grammes) : ถือว่าเป็นหน่วยวัดระดับสากล
- ทรอยออนซ์(Troy Ounces) : ถือว่าเป็นหน่วยวัดน้ำหนักที่ใช้ในการกำหนดราคาซื้อขายกันในตลาดโลก
- ตำลึง, เทล(Taels) : ถือว่าเป็นหน่วยวัดที่นิยมใช้กันในประเทศ จีน, ไต้หวัน และฮ่องกง
- โทลา(Tolas) : ถือว่าเป็นหน่วยวัดที่นิยมใช้กันในประเทศ สิงคโปร์, อินเดีย, ปากีสถาน และแถบตะวันออกกลาง
- ชิ(Chi) : ถือว่าเป็นหน่วยวัดที่นิยมใช้กันในประเทศ เวียดนาม
- ดอน(Don) : ถือว่าเป็นหน่วยวัดที่นิยมใช้กันในประเทศ เกาหลีใต้
- บาท(Baht) : ถือว่าเป็นหน่วยวัดที่นิยมใช้กันในประเทศ ไทย
- Mesghal : ถือว่าเป็นหน่วยวัดที่นิยมใช้กันในประเทศ อิหร่าน
การแปลงหน่วยวัดทองคำ
- 1 กิโลกรัม เท่ากับ 32.1508 ทรอยเอานซ์
- 1 ทรอยเอานซ์ เท่ากับ 31.1034807 กรัม
- 1 ตำลึง เท่ากับ 37.429 กรัม
- 1 โทลา เท่ากับ 11.6638 กรัม
- 1 ชิ เท่ากับ 3.75 กรัม
- 1 ดอน เท่ากับ 3.75 กรัม
- 1 Mesghal เท่ากับ 4.6083 กรัม
- 1 บาท (ทองคำแท่ง) เท่ากับ 15.244 กรัม
- 1 บาท (ทองรูปพรรณ) เท่ากับ 15.16 กรัม
- 1 บาท เท่ากับ 4 สลึง
- 1 สลึง เท่ากับ 10 หุ๋น
- 1 หุ๋น เท่ากับ 0.38 กรัม
ซึ่งการกำหนดน้ำหนักของทองคำในประเทศไทยนั้นมีหน่วยวัดเป็น บาท โดยทองคำแท่ง 1 บาท หนัก 15.244 กรัม และส่วนทองรูปพรรณ 1บาท หนัก 15.16 กรัม
วิธีการดูแลรักษาเครื่องประดับทองคำ
ใช้น้ำยาล้างจิวเวลรี่ผสมกับน้ำร้อน แล้วนำเครื่องประดับทองลงไปแช่ไว้จนกว่าน้ำจะมีอุณหภูมิปกติ จากนั้นให้นำแปรงสีฟันขนอ่อนมาขัดที่ตัวเรือนเบาๆ และล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นใช้ผ้านุ่มๆเช็ดให้แห้ง การเก็บรักษาให้หลีกเลี่ยงจากฝุ่น ความชื้น เหงื่อไคล และเครื่องสำอางค์ต่างๆ อาจจะเก็บไว้ในกล่อง หรือถุงผ้านิ่มๆ เพื่อแยกเป็นสัดส่วน และไม่ทำให้ตัวเรือนเกิดรอยขีดข่วน
บทความดังกล่าวข้างต้นจัดทำโดยทีมงาน บริษัท เลนญ่า จิวเวลรี่ จำกัด ทางเราจึงขอสงวนสิทธิ์ การคัดลอกเนื้อหาทุกบทความของทางบริษัทฯ
กรณีต้องการนำข้อมูลไปใช้หรืออ้างอิง กรุณาติดต่อทีมงานค่ะผ่าน LINE: @LenyaJewelry ค่ะ