ปี 2016 ที่ผ่านมา มีใคร ตั้งเป้าหมาย ให้กับตัวเองแล้วสามาทำได้สำเร็จแบบที่ตั้งใจไว้บ้างคะ ถ้าคุณทำสำเร็จก็ขอยินดีกับความตั้งใจและมั่นคงในเป้าหมาย แต่ถ้าใครทำไม่สำเร็จ ไม่เป็นไรค่ะ เริ่มใหม่ในปี 2017 กันอย่างมีแบบแผนและแนวทางกันดีกว่าค่ะ
ขั้นตอนแรกคือการตั้งเป้าหมาย มีหลักดังนี้
1. วางแผน
คิดและเขียนออกมา เมื่อคุณได้เป้าหมายคร่าวๆ แล้ว ต้องเจาะลงไปยังเป้าหมายและเขียนแผนออกมา ขั้นแรกคือลองเขียนอะไรก็ตามที่คุณนึกออก หากระดาษสักแผ่นและเขียนความคิดตามหัวข้อดังนี้
- อนาคตในฝันของคุณ
- สิ่งที่คุณชื่นชอบ
- สิ่งที่สามารถพัฒนาได้
- สิ่งที่คุณต้องการศึกษาเพิ่มเติม
- นิสัยที่คุณต้องปรับปรุง
ขั้นตอนนี้จะช่วยให้เห็นภาพและเห็นความเป็นไปได้ของเป้าหมาย หลังจากเขียนลงกระดาษเรียบร้อย คุณก็สามารถกำหนดได้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณ
2. เจาะลึก
เมื่อคุณ เขียนเป้าหมาย ของคุณลงกระดาษแล้ว ก็ต้องเจาะลึกลงไป หากเป้าหมายของคุณกว้างไปอย่า่งเช่น ต้องการเล่นกีตาร์ให้เป็น ต้องเจาะลึกลงไปว่าคุณต้องการเล่นเป็นในระดับไหนกันแน่ ต้องการเล่นเป็นเพียงไม่กี่คอร์ดที่จำเป็น หรือต้องการเล่นเก่งระดับนักกีตาร์คลาสสิคเพื่อออกงาน เป้าหมายของคำว่าต้องการเล่นกีตาร์ให้เป็นจึงแตกต่างกันไป และควรตั้งเป้าให้ไกลกว่าเป้าหมายธรรมดา เช่น “ฉันอยากจะรวย” ควรเจาะลึกถึงวิธีที่จะทำให้เกิดความรวย เช่น หากเป้าหมายของคุณคือ “ฉันอยากจะรวย” ก็ควรเปลี่ยนเป็น “ฉันอยากจะชำนาญด้านการเล่นหุ้น”
3. ใช้เทคนิค S.M.A.R.T.
วิธีกำหนดและประเมินเป้าหมายของคุณด้วยการใช้ เทคนิค S.M.A.R.T. จะช่วยให้คุณทำเป้าหมายให้สำเร็จได้
- เจาะจง (Specific)
- ประเมินค่าได้ (Measurable)
- เป็นจริงได้ (Achievable)
- สำคัญ (Relevant)
- เวลาเหมาะสม (Time-bounded)
4. จัดอันดับของเป้าหมาย
ในการเขียนเป้าหมาย อาจมีเป้าหมายมากกว่าหนึ่ง ควรจัดอันดับความสำคัญให้แต่ละเป้าหมาย การจัดอันดับเป้าหมายจะช่วยให้มีสมาธิกับสิ่งที่สำคัญที่สุด เช่น ต้องการจบปริญญาเอกในสาขามนุษยศาสตร์ เล่นกีตาร์คลาสสิค และวิ่งมาราธอน เป็นไปไม่ได้เลยถ้าจะทำทุกอย่างพร้อมกัน ดังนั้นการจัดอันดับว่าเป้าหมายใดที่สำคัญที่สุดจะช่วยวางแผนชีวิตทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เป้าหมายที่ยากหรือใช้เวลานานเกินไป และไม่มีความสำคัญมักไม่สำเร็จ แค่เพียงอยากได้ปริญญาเอกด้านมนุษย์วิทยาแต่ไม่ได้ให้ความสำคัญ และต้องการมากพอ ก็ไม่ควรนำมันเป็นเป้าหมายหลักในชีวิต
5. มองให้เห็นผลลัพธ์
ใช้เวลาคิดถึงผลลัพธ์ในแต่ละเป้าหมายที่มีผลต่อชีวิตของคุณ วิธีนี้จะช่วยให้คุณกำหนดข้อดี ของการทำให้สำเร็จได้ การคิดถึงผลลัพธ์ ช่วยให้คุณเห็นภาพ ขั้นตอนการทำเป้าหมาย และวิธีทำให้สำเร็จ จะทำให้คุณมีกำลังใจมากขึ้น
6. เป้าหมายย่อย
เป้าหมายจะสำเร็จได้ง่ายขึ้น หากแบ่งออกเป็นส่วนย่อย ทีละขั้นตอน แต่เมื่อรวมกันแล้วจะกลายเป็นเป้าหมายใหญ่ที่คุณวางไว้ เช่น คุณต้องการเล่นกีตาร์เป็น เป้าหมายย่อยอันดับแรก คือหากีตาร์สักตัว เป้าหมายต่อไปคือ หาคอร์สเรียน ต่อไปคือเรียนรู้คอร์ดง่ายๆ และเป็นขั้นตอนฝึกต่อไป การทำตารางเวลาให้กับเป้าหมายย่อยเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีสมาธิ และ ทำตามตารางเวลา เช่น คุณตั้งเป้าหมายที่จะมีเงินซื้อกีตาร์ภายในสามเดือน และตั้งเป้าหมายว่าจะเข้าเรียนกีตาร์ในอาทิตย์ถัดไป เรียนคอร์ดพื้นฐานในอีกสองเดือน และขั้นตอนอื่นๆ ต่อไป
7. มองหาอุปสรรค ดูว่าอุปสรรคอะไรที่จะทำให้เป้าหมายไม่สำเร็จ การคิดไว้ล่วงหน้าจะเพิ่มโอกาสให้คุณ เตรียมรับมือและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เข้ามา เช่น คอร์สเรียนกีตาร์ราคาสูงไป อุปสรรคนี้อาจทำให้คุณต้องทำงานหาเงินเพิ่ม หรืออาจจะหาวิธีเรียนรู้ด้วยตัวเองจากหนังสือหรือคลิปวีดีโอ
แผนที่วางจะไม่สำเร็จได้ ถ้าไม่ลงมือทำ
-
ใช้เวลา จดจ่อกับสิ่งนั้นๆ และพยายามทุ่มเท คุณ ควรกำหนดระยะเวลา ของเป้าหมายที่คุณต้องทำให้สำเร็จ เช่น คุณต้องการ 40 ชั่วโมงเพื่อที่จะเล่นกีตาร์ให้เป็น ถ้าคุณต้องการเรียนรู้ภายในหนึ่งเดือน คุณจะต้องใช้เวลาวันละหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ เพื่อทำเป้าหมายให้สำเร็จ ไม่มีวิธีอื่น แค่ให้เวลากับมัน
-
ทำให้เป็นนิสัย การทำให้เป็นนิสัยจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ทำตารางเวลาที่จะต้องทำในแต่ละวัน เช่น ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงตั้งแต่ 6.30 เพื่อฝึกเล่นดนตรี ใช้เวลาอีก 30 นาทีหัดเล่นคอร์ดต่างๆ ใช้เวลาอีก 15 นาที เล่นเพลงสักเพลงหนึ่ง หากคุณทำตามตารางนี้ทุกวัน คุณจะสามารถเล่นดนตรีเป็นอย่างรวดเร็ว
-
ติดตามผลงาน เมื่อคุณเริ่มทำตามขั้นตอน ให้ติดตามความคืบหน้า จดบันทึกว่าเป้าหมายย่อยอะไรบ้างที่คุณทำสำเร็จแล้ว การติดตามความคืบหน้าช่วยให้คุณมีกำลังใจจากการประสบความสำเร็จในเป้าหมายย่อย ช่วยให้คุณทำตามตารางที่กำหนดไว้โดยไม่ผิดพลาดอีกด้วย การเขียนไดอารี่เกี่ยวกับความคืบหน้าของคุณคือ วิธีลดความเครียดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทาง
-
มีกำลังใจเสมอ ส่วนที่ยากที่สุดของการบรรลุเป้าหมายที่ต้องใช้เวลานานคือ การไม่ย่อท้อ การบรรลุเป้าหมายย่อยและจดบันทึกสามารถช่วยให้คุณมีกำลังใจ แต่คุณอาจจะต้องสร้างกำลังใจให้ตัวเอง ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภทคือ
กำลังใจในทางบวก คือ การเพิ่มบางอย่างเข้าไปในชีวิต เช่น คุณอาจฉลองให้ตัวเองเมื่อบรรลุเป้าหมายย่อย
กำลังใจในทางลบ คือ การที่นำบางอย่างออกไป หากคุณมีบางอย่างที่ไม่อยากทำ เมื่อทำเป้าหมายย่อยสำเร็จ คุณอาจฉลองด้วยการไม่ทำงานนั้น 1 สัปดาห์
การให้กำลังใจตัวเอง จะช่วยให้คุณไม่ย่อท้อ การลงโทษตัวเองไม่เป็นวิธีที่ดี แต่ การให้รางวัลตัวเองเป็นวิธีที่ดีกว่า ขอแค่ เชื่อมั่นในตัวเอง ซื่อสัตย์กับตนเอง เป้าหมายไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ แต่ทำสำเร็จแล้วคุณจะภูมิใจ "การเดินทางเป็นพันไมล์เริ่มต้นจากก้าวเดียว" เพราะฉะนั้น เริ่มลงมือทำซะตั้งแต่วันนี้นะคะ
อ้างอิงข้อมูลจาก wikihow / ภาพประกอบจาก pixabay
อ่านบทความเรื่อง เพิ่มพลังความรัก เติมเต็มความกล้า พร้อมฟันฝ่าสู่อนาคต กับอัญมณีแห่งการเริ่มต้น - โกเมน
บทความดังกล่าวข้างต้นจัดทำโดยทีมงาน บริษัท เลนญ่า จิวเวลรี่ จำกัด ทางเราจึงขอสงวนสิทธิ์ การคัดลอกเนื้อหาทุกบทความของทางบริษัทฯ
กรณีต้องการนำข้อมูลไปใช้หรืออ้างอิง กรุณาติดต่อทีมงานค่ะผ่าน LINE: @LenyaJewelry ค่ะ