อาการแพ้เครื่องประดับ และจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สาวๆ ที่ชอบเครื่องประดับสวยๆ ใส่แล้วช่วยให้มั่นใจขึ้น อาจจะกลายเป็นทำร้ายผิวคุณโดยไม่รู้ตัว เช่น ตุ้มหู สร้อย แหวน และกำไลข้อมือ อาการแพ้ที่ว่าก็คือ ผิวเป็นผื่นแดงและคัน เป็นๆ หายๆ เรื้อรัง

  • แพ้เครื่องประดับที่ทำจากนิกเกิล

ศัตรูตัวสำคัญที่ทำร้ายผิวคุณ คือ นิกเกิล ซึ่งมองๆ ดูแล้วไม่น่าเป็นอะไร ก็แค่โลหะธรรมดา การอักเสบของผิวหนัง ที่เกิดจากการสัมผัสกับโลหะที่มีส่วนผสมของนิกเกิล พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ในผู้ชายส่วนใหญ่การแพ้นิเกิลจะพบในการประกอบอาชีพ เช่น แพ้เครื่องมือจากการทำงาน ขณะที่ผู้หญิงส่วนใหญ่จะเกิดจากการสัมผัสโดยตรงจากเครื่องประดับโลหะ นาฬิกา กุญแจ ที่ดัดขนตา ตุ้มหู สร้อยคอ ซิปเสื้อ เหรียญที่ห้อยคอ โครงของชุดชั้นใน หูกระเป๋าถือ แหวน กำไล

สารเคมีที่ใช้ในชีวิตประจำวันบางชนิดก็ก่อให้เกิดการแพ้ได้ เช่น น้ำหอม เครื่องสำอาง ที่มี โลหะหนักปนเปื้อน สารกันบูด ลาโนลิน น้ำยาบ้วนปาก น้ำยาดับกลิ่นและระงับการหลั่งของเหงื่อ น้ำยาเคลือบเล็บ เป็นต้น และการที่ผิวหนังอักเสบบ่อยจากการแพ้ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวอ่อนแอ ซึ่งอาจส่งผลทำให้ผิวแก่ก่อนวัยได้

“การเกิดผื่นแพ้สัมผัสจากนิเกิล จะเกิดเมื่อผิวหนังสัมผัสกับสารนิเกิลแล้วไปกระตุ้นให้ร่างกายเกิดกระบวนการในระบบภูมิคุ้มกันแบบ “cell mediated immune response” โดยจะมีขั้นตอน เริ่มจากระยะกระตุ้น คือระยะตั้งแต่ได้รับสารก่อภูมิแพ้ครั้งแรก จนกระทั่งถูกกระตุ้นเต็มที่ใช้เวลาประมาณ 7-10 วัน ต่อมา ระยะเกิดปฏิกิริยา คือระยะที่ได้รับสารก่อภูมิแพ้อีกครั้งจนกระทั่งเกิดอาการที่ผิวหนัง มีระยะเวลาประมาณ 48-72 ชั่วโมง โดยเกิดมากที่สุดเมื่อ 48 ชั่วโมง”

นพ. นิยม ตันติคุณ แพทย์ผิวหนังจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งกล่าวว่า ” มีผู้ป่วยเป็นโรคผิวหนังที่มีอาการผื่นแดงและคันอันเกิดจากการสวมใส่เครื่องประดับที่ทำมาจากนิกเกิลมากขึ้น คุณหมอแนะนำว่า หลังการเจาะหูควรรอให้แผลแห้งสัก 3 สัปดาห์ จึงใส่เครื่องประดับตามแฟชั่นได้ มิเช่นนั้นรอยแผลที่เกิดจากการเจาะหูจะเกิดการอักเสบขึ้นได้ และหลังจากเจาะหูใหม่ๆ คุณควรจะเลือกตุ้มหูที่ปราศจากสารนิกเกิลจะดีที่สุด” ถ้าสงสัยว่า คุณมีอาการโรคภูมิแพ้เครื่องประดับ ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการทดสอบผิวหนังด้วยแผ่นพลาสเตอร์ทดสอบ เพื่อความมั่นใจว่าคุณแพ้นิกเกิลจริงหรือไม่ สาวๆ มากมายที่ไม่รู้ว่า เครื่องประดับที่กำลังฮิตกันอยู่นั่นมีสารนิกเกิลตัวร้ายแอบแฝงอยู่ด้วย 


 
เครื่องประดับเงินแท้จากไม่ทำให้เกิดอาการแพ้

  • แพ้เครื่องประดับที่ทำจากทอง

นอกจากนิกเกิลจะก่อให้เกิดการแพ้ได้แล้ว เครื่องประดับอื่นๆ ก็ทำให้ผิวหนังมีปัญหาได้เหมือนกัน เช่น ทอง เงิน ทองแดง เพราะการนำทองมาทำเครื่องประดับนั้นจำเป็นต้องผสมกับโลหะที่จะทำให้ทองแข็งตัว หากเป็นทองบริสุทธิ์ ก็มีความอ่อนเกินกว่าที่จะนำมาทำเป็นตัวเรือนหุ้มเพชรพลอยได้ แต่ถ้านำนิกเกิลมาเป็นส่วนผสมก็สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ทางผิวหนังได้เหมือนกัน (นิกเกิลมีราคาถูกและทำให้เครื่องประดับไม่ดำ ) แต่ถ้าหากเป็นทองที่มีคุณภาพดี ก็จะมีส่วนผสมของนิกเกิลเป็นจำนวนไม่มาก หรือบางคนก็อาจมีอาการแพ้ทองได้เหมือนกัน


อาการที่พบ

จะพบได้ตั้งแต่ผิวหนังเป็นผื่นแดง กระจายออกไปจากบริเวณที่สัมผัส มีอาการคัน ภายในเวลา 15-30 นาที หลังจากที่สัมผัสนิเกิล และหากเกาแรงๆ จะทำให้ผื่นกำเริบหรือขยายวงกว้างขึ้นได้ ต่อมาผื่นจะเป็นเม็ดตุ่มนูน และตุ่มน้ำพองใส อาจแตกออกเป็นน้ำเหลืองไหลเยิ้ม อาการคันจะยิ่งมากขึ้น ถ้าเป็นในระยะเรื้อรัง จะทำให้ผื่นผิวหนังหนานูนขึ้น มีสีคล้ำ ผิวไม่เรียบ มีขุย นอกจากนี้อาจทำให้เกิดผื่นกระจาย ตุ่มน้ำใส ลมพิษ หรือเป็นมากทั้งตัว


หากรู้ตัวว่าคุณแพ้สารนิกเกิล ก็ควรหลีกเลี่ยงสารเหล่านี้

–  อย่าแตะต้องเครื่องประดับที่มีส่วนผสมของนิกเกิล แม้ว่าจะการเคลือบป้องกันก็ตามเพราะพอใช้ไปนานวันเข้า สารที่เคลือบไว้ก็จะหลุดลอกออกและปลอดปล่อยสารนิกเกิลออกมาโจมตีผิวคุณโดยไม่รู้ตัว

–  เครื่องประดับสวยงามราคาถูกส่วนมากมักไม่ได้เคลือบสารป้องกันสารนิกเกิลไว้ ให้พยายามเลือกเครื่องประดับสแตนเลสที่ปราศจากสารนิกเกิลซึ่งมีขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วๆไป

– หลีกเลี่ยงการใช้หม้อหุงต้มที่ทำจากสแตนเลสและเครื่องต้มกาแฟที่มีตัวฟิลเตอร์เป็นโลหะแต่ควรเลือกใช้ภาชนะที่ทำมาจากแก้ว เครื่องเคลือบดินเผา หรือพลาสติกจะดีกว่า

–  ไม่ควรกินอาหารกระป๋อง

–  ควรสวมใส่ถุงมือเมื่อต้องใช้มือนับเหรียญ คีม ไขควง และตะปู

–  ใช้ครีมที่มีสาร “คอติโซน” เพื่อไปหยุดชะงักระบบภูมิคุ้มกันไม่ให้ทำการต่อต้านมากนัก อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น แต่ควรทาเพียงบางๆ เท่านั้น

–  นอกจากทาครีมแล้ว ให้ใช้ผ้าเย็นๆ มาประคบอีกที

– ทาครีมสเตียรอยด์ ซึ่งตัวยาจะเข้มข้นมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่แพ้ หากเป็นที่ฝ่ามือ หรือฝ่าเท้า ซึ่งมีผิวหนากว่าบริเวณอื่นก็ต้องใช้ตัวยาที่เข้มข้นมากกว่าการใช้ในบริเวณที่ผิวบอบบาง

–  หากเป็นมากควรไปพบแพทย์ผิวหนัง
 

อันตรายจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องประดับเงิน ทอง นาก

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องประดับเงิน ทอง นาก ที่วางจำหน่ายตามร้านจำหน่ายเครื่องเงิน ประกอบด้วยสารออกฤทธิ์ประเภทเกลือไซยาไนด์หรือกรด ซึ่งเป็นสารเคมีที่ก่อให้เกิดอันตรายทั้งเฉียบพลันต่อตา ทำให้รูม่านตาขยาย กระจกตาบวมน้ำ เมื่อสัมผัสผิวหนังจะเกิดระคายเคืองและเกิดแผลเปื่อย หากสูดดมหรือรับประทาน ในปริมาณมากจะมีอาการหน้าแดง หัวใจเต้นเร็ว ความดันสูงปวดศีรษะ และอาการจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ส่วนพิษเรื้อรังนั้นพบได้น้อยมาก สำหรับกรดพบว่ามีการใช้กรดไฮโดรคลอริก ซึ่งก่อให้เกิดพิษเฉียบพลันจากการรับประทานคือ เกิดอาการเจ็บปวดรุนแรงจากการกัดกร่อนของเนื้อเยื่อบริเวณปาก คอหอยและช่องท้อง มีอาการอาเจียนถ่ายเหลวสีคล้ำ ความดันลด หลอดอาหาร กระเพาะอาหารทะลุ เมื่อสูดดมจะเกิดอาการไอ สำลัก ปวดศีรษะ ปอดบวม หายใจลำบาก หากสัมผัสผิวหนังจะมีรอยไหม้และเป็นรอยแผลเป็นหากเข้าตากระจกตาจะถูกทำลาย สำหรับพิษเรื้อรังจากการสูดดมพบว่า ทำให้ฟันถูกกัดกร่อน มีอาการระคายเคืองหลอดลม ไอเรื้อรัง ปอดอักเสบ กระเพาะอาหารและลำไส้ทำงานผิดปกติ

เห็นได้ว่าสารเคมีทั้ง 2 กลุ่มสามารถก่อให้เกิดอันตราย หากใช้งานโดยขาดความระมัดระวัง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องประดับเงิน ทอง นาก จัดเป็นผลิตภัณฑ์วัตถุอันตรายที่อยู่ในความควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535  นอกจากนี้ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวตามร้านค้าเครื่องประดับจะต้องเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาตหรือแจ้งการดำเนินการถูกต้องแล้วเท่านั้นมาจำหน่ายหากฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับผู้บริโภค การเลือกซื้อควรสังเกตว่าผลิตภัณฑ์มีเลขทะเบียนในกรอบเครื่องหมาย และ ฉลากมีข้อแสดงประโยชน์ วิธีใช้ คำเตือน การเก็บรักษาและวิธีแก้พิษซึ่งข้อความเหล่านี้จะช่วยให้สามารถเลือกซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกวิธี และกรณีที่มีผู้ได้รับสารพิษญาติ หรือผู้อยู่ใกล้ชิดก็สามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นตามวิธีแก้พิษที่ปรากฏอยู่บนฉลากได้ก่อนนำผู้ป่วยส่งแพทย์ นอกจากนี้การเก็บรักษาก็เป็นสิ่งสำคัญโดยให้แยกเก็บผลิตภัณฑ์วัตถุอันตรายจากของกินของใช้อื่น และเก็บในที่ปลอดภัยห่างจากเด็กและสัตว์เลี้ยงจะช่วยป้องกันมิให้เกิดอันตรายจากความผิดพลาดในการหยิบใช้วัตถุอันตรายชนิดนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเด็กได้รับสารพิษจะก่อให้เกิดอันตรายรุนแรงและอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

อ่านบทความเรื่อง เงิน 925 (Sterling Silver)
 

บทความดังกล่าวข้างต้นจัดทำโดยทีมงาน บริษัท เลนญ่า จิวเวลรี่ จำกัด ทางเราจึงขอสงวนสิทธิ์ การคัดลอกเนื้อหาทุกบทความของทางบริษัทฯ
กรณีต้องการนำข้อมูลไปใช้หรืออ้างอิง กรุณาติดต่อทีมงานค่ะผ่าน LINE: @LenyaJewelry ค่ะ