ในเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานการมอบ ‘ของขวัญ’ แทนคำอวยพร ของชาวตะวันตกนั้น เชื่อกันว่า ประเพณีการมอบของขวัญเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สมัยที่ชาวโรมันปกครองอาณาจักรตะวันตก การมอบของขวัญในวันคริสต์มาสอันเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงการประสูติของพระเยซูจึงเริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกในเมือง Saturnalia โดยใช้สีแดงของต้นฮอลลี่และแซนตาคลอส เป็นสัญลักษณ์แทนความตื่นเต้น ซึ่งมีความหมายโดยนัยทางศาสนาว่า เลือดเนื้อ ความโอบอ้อมอารี ความอบอุ่น และมิตรภาพ ใช้สีเขียวของต้นสน แสดงถึงความเป็นธรรมชาติ ความอ่อนเยาว์ และความหวัง สีขาวของหิมะ แสดงถึงแสงสว่างในชีวิต ความบริสุทธิ์ และความสุข ส่วนสีทองของเปลวเทียนนั้น แทนสัญลักษณ์ของความสว่างไสว ดุจแสงอาทิตย์ และความเจริญรุ่งเรือง เป็นต้น


ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการ ‘ห่อของขวัญ’ มาช้านาน ด้วยปรัชญาความเชื่อเกี่ยวกับการ ‘ห่อหุ้มความรู้สึก’ ไว้ด้วยความปรารถนาดี และมิตรภาพอันควรทะนุถนอม ด้วยเหตุนี้ชาวญี่ปุ่นจึงใส่ใจในการห่อของขวัญเป็นพิเศษ และที่สำคัญ เมื่อได้รับของขวัญจากผู้ใดแล้ว ชาวญี่ปุ่นจะไม่แกะห่อของขวัญนั้นในทันที เพราะประเพณีดั้งเดิมในยุคโบราณของชาวอาทิตย์อุทัยเชื่อว่า ของขวัญนั้นมีเพื่อถวายแด่เทพเจ้า หลังจากนั้นครอบครัวจึงจะนำมาเปิดร่วมกันได้ในภายหลัง โดยชาวญี่ปุ่นจะนิยมให้ของขวัญในช่วงเทศกาล 2 ฤดูคือ ฤดูร้อน และฤดูหนาว โดยของขวัญส่วนใหญ่อาจเป็นได้ทั้งสิ่งของ เงินทอง และบัตรอวยพร เป็นต้น…


และสำหรับคนไทยเราแล้ว การมอบของขวัญในเทศกาลต่างๆ นั้น มีความหลากหลายค่อนข้างมาก ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบ และความนิยมของตัวผู้ให้และผู้รับด้วยเช่นกัน ซึ่งของขวัญที่คนไทยเรานิยมมอบแก่กันในเทศกาลพิเศษเช่นวันปีใหม่ วันคริสต์มาส วันวาเลนไทน์ วันแม่ วันพ่อ วันเด็ก รวมถึงวันเกิด และวันฉลองความสำเร็จต่างๆ อาจได้แก่ ตุ๊กตา (สัญลักษณ์แห่งความปรารถนาดี และมิตรภาพ) น้ำหอม (สัญลักษณ์ของชื่อเสียง เกียรติ์ และเสน่ห์) พระเครื่อง หรือพระพุทธรูป (สัญลักษณ์แห่งความสงบร่มเย็น) ช่อดอกไม้ (สัญลักษณ์แห่งความสดชื่น ความรัก และความปรารถนาดี) เสื้อผ้า (สัญลักษณ์ของภาพลักษณ์ ความมีสง่า) ถ้วยกาแฟ (สัญลักษณ์ของมิตรภาพ และความใกล้ชิด) ปากกา (สัญลักาณ์ของความสำเร็จ) ฯลฯ รวมถึง ‘เครื่องประดับจิวเวลรี่’ ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เพราะเครื่องประดับจิวเวลรี่เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงเกียรติยศ ความสง่างาม และความสำเร็จ นั่นเอง อีกทั้งการมอบเครื่องประดับเป็นของขวัญยังบ่งบอกความหมายโดยนัยว่า ผู้ให้มีความพิถีพิถัน มีความละเอียดอ่อน และใส่ใจต่อผู้รับอย่างแท้จริงอีกด้วย 


สำหรับเครื่องประดับจิวเวลรี่ที่คนไทยนิยมนำมามอบให้แก่คนที่ตนรัก ในช่วงเทศกาลสำคัญ หรือวันพิเศษต่างๆ นั้นมีทั้งเครื่องประดับแหวน ต่างหู สร้อยคอ จี้ กำไลข้อมือ สร้อยข้อมือ และเข็มกลัดติดเสื้อ เป็นต้น และแน่นอนว่า เครื่องประดับที่ทำจากทองคำ คืออันดับ 1 ของเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมสูงสุด รองลงมาคือเครื่องประดับเงิน และทองคำขาว ที่ประดับด้วยอัญมณีชนิดต่างๆ เช่น เพชร ไข่มุก หยก ทับทิม โกเมน ไพลิน มรกต บุษราคัม และอัญมณีอื่นๆ อีกหลายหลายชนิด ที่มีความหมายบ่งบอกถึงความสุข ความสำเร็จ และความมั่งคั่ง ยกตัวอย่างเช่น


อเมทิสต์ (Amathyst) – ถือเป็นอัญมณีแห่งการเฉลิมฉลองอย่างแท้จริง เพราะนอกจากอเมทิสต์จะมีความหมายบ่งบอกถึงความรัก สติปัญญา และความร่ำรวยแล้ว ตามตำนานยังเล่าถึงกำเนิดของอเมทิสต์ว่ามาจากการที่เทพเจ้าเทเหล้าองุ่นสีม่วง อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลอง และความมึนเมาลงบนร่างของหญิงสาวนางหนึ่ง ซึ่งภายหลังอเมทิสต์ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความตื่นรู้ และการป้องกันตนเองจากความมึนเมาด้วยเช่นกัน


ซิทริน (Citrine) – พลอยสีเหลืองอีกชนิดหนึ่งที่เปี่ยมไปด้วยความหมายแห่งสติปัญญา ความมุ่งมั่นที่จะไปสู่ความสำเร็จ ช่วยให้ผู้ครอบครองเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทั้งยังมอบความสุข ความสดชื่น ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า และขจัดความทุกข์ออกไปจากใจของผู้ที่ได้ครอบครองอีกด้วย


ไทเกอร์ อาย (Tiger eyes) – อัญมณีที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งชัยชนะ ความมั่งคั่ง ร่ำรวย ถือเป็นหินแห่งโชคลาภอีกชนิดหนึ่ง ที่นิยมสวมใส่ และมอบเป็นของขวัญในเทศกาลพิเศษต่างๆ เพราะนอกจากไทเกอร์อายจะมอบพลังแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย และเสริมสร้างเสน่ห์ให้กับผู้ครอบครองแล้ว ยังเปี่ยมไปด้วยพลังการคุ้มครองที่สูงมากอีกด้วย


ทัวร์มาลีน (Tourmaline) – ถือเป็นอัญมณีที่เหมาะแก่เทศกาลเฉลิมฉลอง และส่งมอบเป็นของขวัญให้กับคนที่รักอีกชนิดหนึ่ง เนื่องจากทัวร์มาลีนถือเป็นอัญมณีแห่งความสุข ความสำเร็จ และการเจริญเติบโต แถมยังให้คุณประโยชน์ในด้านการเงินแก่ผู้ครอบครองอีกด้วย


สโมกกี้ควอตซ์ (Smoky Quartz) – จัดเป็นอัญมณีแห่งความโชคดีอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งมีพลังในด้านบำบัดจิตใจที่สูงมาก ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สร้างความรู้สึกแช่มชื่น สดใส กระตือรือร้นที่จะดำเนินชีวิตต่อไปด้วยความแข็งขัน จึงอาจเรียกได้ว่า สโมกกี้ควอตซ์ นับเป็นเครื่องประดับอัญมณีอีกชิ้น ที่เหมาะจะมอบไว้เป็นของขวัญแด่ผู้ใหญ่ที่เคารพรัก นั่นเอง


อย่างไรก็ตาม นอกจากอัญมณีดังที่กล่าวมาแล้ว ยังมีเครื่องประดับอัญมณีอีกหลายชนิดด้วยกัน ที่เหมาะจะมอบเป็นของขวัญ ของฝากแก่คนที่เรารักในช่วงเทศกาลพิเศษๆ นี้ ที่สำคัญไม่ควรลืมว่า รูปลักษณ์และการดีไซน์ของเครื่องดับชิ้นนั้นๆ ก็มีความสำคัญไม่น้อยเช่นกัน และถ้าหากคุณไม่แน่ใจว่า ควรจะเลือกเครื่องประดับชิ้นใด รูปลักษณ์แบบไหนจึงจะเหมาะสม และเป็นที่พอใจของผู้รับละก็ เครื่องประดับดีไซน์เรขาคณิต คือตัวเลือกที่สำคัญ และน่าสนใจที่สุด เพราะทุกดีไซน์ ไม่ว่าจะเป็นวงกลม สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม หรือรูปทรงพีระมิด ฯลฯ ล้วนเปี่ยมไปด้วยความหมายของความเป็นอมตะ สติปัญญา และสำเร็จทั้งสิ้น! 

 

บทความดังกล่าวข้างต้นจัดทำโดยทีมงาน บริษัท เลนญ่า จิวเวลรี่ จำกัด ทางเราจึงขอสงวนสิทธิ์ การคัดลอกเนื้อหาทุกบทความของทางบริษัทฯ
กรณีต้องการนำข้อมูลไปใช้หรืออ้างอิง กรุณาติดต่อทีมงานค่ะผ่าน LINE: @LenyaJewelry ค่ะ