เราทราบกันดีว่า ทองคำที่ค้นพบในธรรมชาติ จะมีสีเหลืองเปล่งปลั่ง หากนำไปหลอมก็จะได้ทองคำบริสุทธิ์ แต่เมื่อนำทองคำมาผ่านกระบวนการผสมกับสารอื่นๆ จะสามารถทำให้ทองกลายเป็นสีอื่นๆ ที่แตกต่างออกไป เช่น สีขาว ซึ่งเกิดจากการทำทองคำไปผสมกับแพลเลเดียม สังกะสี และนิกเกิล และทองคำสีแดง หรือสีชมพู ซึ่งเกิดจากการนำทองคำมาผสมกับทองแดง
ทองคำสีชมพู (Pink Gold) นี้เอง ที่คนไทยเรารู้จักมานานแล้วในชื่อที่เรียกกันว่า “นาก”
“นาก” จัดเป็นทองกะรัต หรือทอง K ประเภทหนึ่งที่เกิดจากการนำทองคำมาผสมกับทองแดง ซึ่งมีการผสมทองแดงในอัตราที่แตกต่างกันออกไป โดยดูจากค่ากะรัต (K) ถ้ามีค่ากะรัตต่ำ ก็จะมีปริมาณของทองแดงสูง เช่น ถ้าทอง 10 กะรัต จะมีปริมาณทองแดงผสมอยู่ 45 % แต่ถ้าเป็นทอง 18 กะรัต ก็จะมีปริมาณทองคำอยู่ประมาณ 65 % เป็นต้น ซึ่งขึ้นอยู่กับส่วนผสม และอัลลอยที่เป็นตัวใช้ผสม
ในประเทศไทย การผลิตนาก จะมีค่ากะรัตอยู่ที่ 14K-18K (มีทองอยู่ 40-60%) แต่ถ้าเป็นในยุโรป ค่ากะรัตจะมีตั้งแต่ 9K - 22K ที่ผ่านมา การทำนากของประเทศไทย จะมีลักษณะของสีไม่แน่นอน เนื่องจากตัวผสมอัลลอยของร้านทองคำมีปริมาณที่แตกต่างกัน บางครั้งมีการผสมโลหะอื่นด้วย อาทิ Pink Gold 9 K จะมีส่วนผสมของทอง 37.5 % เงิน 20% และทองแดง 42.5%
สังคมไทยคุ้นเคยกับเครื่องประดับนากมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีการนำนากมาทำเข็มขัด สร้อย กำไล แหวน แต่ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ความนิยมของนากลดน้อยลงไปมาก แต่เมื่อมีการออกแบบใหม่ให้มีลวดลายที่ทันสมัย สวยงาม มีการใช้วัสดุอื่นๆ เข้ามาผสมด้วย ทำให้นากกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในชื่อ Pink Gold
Pink Gold หรือนาก เป็นที่รู้จักอีกครั้ง เนื่องจากมีความสวยงาม มีสีสันที่แตกต่างจากทองรูปพรรณ ทั้งยังมีความแข็งแกร่งทนทานกว่าทองรูปพรรณ เราจะเห็นนากในเครื่องประดับรูปแบบต่างๆ ทั้ง กำไล แหวน ต่างหู สร้อย หรือจี้ ตลอดจนนำไปเป็นตัวเรือนในการประดับอัญมณีต่างๆ ซึ่งความนิยมที่เพิ่มขึ้นนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการที่ทองรูปพรรณมีราคาสูงมาก และค่อนข้างเสี่ยงอันตรายหากจะนำมาสวมใส่ ผู้คนจึงหันไปให้ความสนใจกับนาก ที่ราคาย่อมเยากว่า แต่สวยงามไม่แพ้กัน
การจะเลือกซื้อนากในปัจจุบัน แตกต่างจากในอดีต ซึ่งอาจไม่ต้องมีใบรับประกันใดๆ แต่ตอนนี้ การซื้อนากแต่ละครั้งเราจำเป็นต้องดูว่ามีการประทับตรารับรองคุณภาพความบริสุทธิ์ของทองคำหรือการแสตมป์หรือไม่ จากนั้นจึงให้ทางร้านชั่งความถ่วงจำเพาะ จากนั้นดูความน่าเชื่อถือของร้าน โดยขอใบรับรอง หรือใบรับประกันจาก สคบ. ส่วนราคาก็สามารถคำนวณได้จากเปอร์เซ็นต์ของทองคำบวกกับค่าแรงและค่ารูปแบบดูว่าราคาเหมาะสมหรือไม่
เนื่องจากความนิยม Pink Gold เพิ่มสูงขึ้น จึงมีความพยายามในการสร้าง Pink Gold ในรูปแบบต่างๆ ที่ดูมีราคาแต่ใช้ต้นทุนต่ำ อาทิ การชุบทอง หรือ Gold Plate คือการเอาทองแดงหรือทองเหลืองไปชุบนาก ทำให้ดูเหมือนนากแท้ บางครั้งจะมีอักษรย่อ GP ต่อท้ายสินค้า หรือคำว่า Pink Gold เช่น กำไลข้อมือ Pink Gold GP ก็คือกำไลข้อมือที่ทำจากวัสดุอื่นแต่เอามาชุบ Pink Gold ซึ่งบางครั้งคนขายปิดบังข้อมูลไว้ ไม่บอกทั้งหมด ซึ่ง Pink Gold ที่มีคุณภาพมีมาตรฐานได้รับการรับรอง มักจะมีราคาสูงหลายพันบาทหรือหมื่นบาทขึ้นไป แต่แบบที่ชุบทองอาจจะมีราคาเพียงแค่ 2,000-3,000 บาท ผู้ซื้อจึงควรพิจารณาให้ดี อย่าเห็นแก่ของถูกหรือเชื่อตามคำโฆษณาของผู้ขาย
สำหรับการดูแลรักษานาก หากเป็นนากที่มีส่วนผสมของทองคำอยู่สูง เช่น 16-18 K อาจไม่ต้องดูแลมากนัก แต่ถ้าเป็นนากที่มีเปอร์เซ็นต์ทองคำต่ำ จะสามารถเกิดสนิมทองแดงได้ง่าย ดังนั้นเมื่อถอดเครื่องประดับนากแล้วต้องทำความสะอาดด้วยการเช็ดคราบเหงื่อทุกครั้ง เพราะคราบเหงื่อจะทำให้นากหมอง นอกจากนี้ ยังสามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดจิวเวลลี่ที่มีขายทั่วไป หลังทำความสะอาดเสร็จแล้ว ควรเก็บนากไว้ในถุงซิปไม่ให้ถูกอากาศ และเมื่อใช้ไปเป็นเวลานาน นากจะเริ่มด้านไม่ขึ้นเงา เราสามารถไปที่ร้านที่บริการชุบเงา เพื่อให้นากกลับมาสวยเหมือนเดิม
หากคุณเบื่อเครื่องประดับที่ทำจากเงิน และคิดว่าเครื่องประดับทองคำไม่ปลอดภัยสำหรับการสวมใส่ นากหรือ Pink Gold เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ และจะช่วยเพิ่มสีสันให้กับชุดเครื่องประดับของคุณ
บทความดังกล่าวข้างต้นจัดทำโดยทีมงาน บริษัท เลนญ่า จิวเวลรี่ จำกัด ทางเราจึงขอสงวนสิทธิ์ การคัดลอกเนื้อหาทุกบทความของทางบริษัทฯ
กรณีต้องการนำข้อมูลไปใช้หรืออ้างอิง กรุณาติดต่อทีมงานค่ะผ่าน LINE: @LenyaJewelry ค่ะ