“เครื่องประดับ” เป็นได้ทั้งส่วนหนึ่งของอาภรณ์เพื่อเสริมความโดดเด่น เป็นได้ทั้งเครื่องบอกยศถาและตำแหน่ง รวมทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ซึ่งแทนความหมายบางประการ การเลือกซื้อเครื่องประดับสักชิ้น จึงไม่ใช่เพียงแค่การอวดโอ่ความงามของเครื่องประดับ หรืออวดโอ่ความร่ำรวยเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการเปิดเผยตัวตนที่อยู่ภายใน (inner)ให้ผู้อื่นได้รับรู้ ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจอีกด้วย

สำหรับคนที่ซื้อเครื่องประดับเป็นประจำ ย่อมมีรสนิยม มีวิธีการเลือกของตัวเอง แต่สำหรับคนที่จำเป็นต้องซื้อ หรือเริ่มคิดที่จะซื้อ อาจยังไม่แน่ใจว่าควรจะเริ่มต้นตรงไหน อย่างไรดี เราลองมาดูข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับเครื่องประดับที่มีวางจำหน่ายทั่วไป เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

“อัญมณีและเครื่องประดับ” ถือเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอย่างสูงยิ่งในประเทศไทย เพราะมีคุณภาพสูง มีความหลากหลายของสินค้าและราคาอย่างมาก นอกจากตลาดในประเทศแล้ว ยังมีมูลค่าการส่งออกปีละกว่าสองพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ตลาดอัญมณีและเครื่องประดับเป็นตลาดขนาดใหญ่มาก มีการแบ่งประเภทแยกย่อยเฉพาะออกไปหลายประเภท เช่น เครื่องประดับทอง เครื่องประดับเงิน เพชร พลอย หินสี เครื่องประดับที่เน้นการออกแบบและวัสดุทีแปลกใหม่ ฯลฯ

เครื่องประดับแต่ละประเภทจะมีรายละเอียดของมันเองซึงค่อนข้างจะยิบย่อยมาก บางชนิดหากผู้ซื้อไม่มีความรู้มากพอ อาจเสี่ยงต่อการถูกหลอกให้ซื้อของปลอมหรือของคุณภาพต่ำ อาทิ “พลอยเนื้ออ่อน” ซึ่งมีมากมายหลายชนิดทั้งมรกต บุษราคัม แซฟไฟร์ ไพลิน ฯลฯ และแต่ละชนิดก็มีหลายแบบ หลายเกรด แม้บางอย่างจะชื่อเหมือนกัน เช่น “พลอยตาแมว” แต่ก็มีหลายแบบ และราคาก็ต่างกันมาก หรือ “เครื่องประดับเงิน” ก็จะมีทั้งเงินเทียม ,เงินแท้แต่ไม่เต็ม และเงินแท้เงินเต็ม ซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันทั้งวัสดุที่ใช้ คุณภาพและราคา การจำแนกต้องมีความรู้บ้าง หากไม่รู้เลย อาจถูกหลอกให้ซื้อเงินเทียมในราคาแพง

เนื่องจากรายละเอียดอันมากมายของเครื่องประดับ ทำให้ผู้ซื้อที่ไม่มีความรู้โดยตรง อาจประสบปัญหาในการเลือกซื้อ ดังนั้น ในปัจจุบันจึงมีการใช้ระบบ “ใบรับประกัน”หรือที่นิยมเรียกว่า “ใบเซอร์” (certificate)แนบไปกับสินค้า เพื่อให้ ลูกค้าได้ทราบว่า เครื่องประดับชิ้นนี้เป็นของแท้ มีคุณภาพจริง ใบรับประกันเครื่องประดับทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า เครื่องประดับที่ซื้อไปนั้นมีลักษณะ มีชนิดและน้ำหนักของโลหะ ชนิดและน้ำหนัก(หรือกะรัต)ของอัญมณีตลอดจนรายละเอียดต่างๆ ตรงกับตามที่ทางร้านได้โฆษณาไว้ ซึ่งลูกค้าย่อมสามารถนำไปตรวจสอบกับที่อื่นๆ ได้ว่า เครื่องประดับชิ้นนี้มีรายละเอียดตรงตามใบรับประกันหรือไม่ การรับประกันเช่นนี้ ทำให้ผู้ซื้อไม่ต้องคอยกังวลว่า เครื่องประดับที่เราซื้อมาจะเป็นของปลอมหรือของด้อยคุณภาพ ซึ่งก็แน่นอนว่า เครื่องประดับที่มีใบรับประกันนี้ ราคาจะสูงกว่าเครื่องประดับทั่วๆ ไปที่ไม่มีใบรับประกัน

“ใบรับประกัน”นับว่ามีความสำคัญมาก โดยเฉพาะเครื่องประดับหมายเลขหนึ่งตลอดกาลอย่าง “เพชร”เนื่องจากเป็นเครื่องประดับที่แม้จะมีขนาดเล็กมาก แต่ราคากลับสูงมาก ทั้งยังมีรายละเอียดมากมายทั้งน้ำหนัก ความใส การเจียระไน และสี ส่วนเพชรที่ไม่มีใบรับประกันแม้จะมีราคาถูกกว่ามากแต่ผู้ซื้อก็ควรจะหลีกเลี่ยง เพราะไม่อาจรู้ได้ว่า เครื่องประดับเพชรชิ้นนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร

แต่ถ้าหากเราต้องการเลือกซื้อเครื่องประดับทั่วๆ ไป ราคาหลักร้อยจนถึงหลักพัน ซึ่งไม่มีใบรับประกัน เราก็สามารถเลือกได้โดยพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของร้าน หรือของบริษัทซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่าย ซึ่งนอกจากความน่าเชื่อถือแล้ว ยังต้องพิจารณาถึงบริการต่างๆ เช่น การให้ข้อมูลสินค้า การสั่งซื้อและจัดส่ง การรับประกันสินค้า การคืนสินค้า ตลอดจนโปรโมชั่นต่างๆ เพราะไม่ว่าคุณอยากจะซื้อเครื่องประดับเพื่อเป็นของขวัญให้ตัวเอง หรือเพื่อเป็นของขวัญให้กับคนที่คุณรัก “คำแนะนำ”จากผู้ขายที่มีความรู้และเชื่อใจได้ นับเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเลือกซื้อ

แต่ในอีกแง่หนึ่ง หากคุณชอบที่จะศึกษาหาข้อมูลด้วยตนเองและต้องการเลือกด้วยตัวเอง คุณก็จะได้ศึกษาเรียนรู้เรื่องเครื่องประดับไปพร้อมๆ กับการได้ชื่นชมความงามจากเครื่องประดับที่คุณได้เลือกซื้อ

“โลกของเครื่องประดับ” เป็นโลกที่กว้างใหญ่ไพศาล และมีเรื่องน่าสนใจให้ศึกษาติดตามอยู่เสมอ

 

บทความดังกล่าวข้างต้นจัดทำโดยทีมงาน บริษัท เลนญ่า จิวเวลรี่ จำกัด ทางเราจึงขอสงวนสิทธิ์ การคัดลอกเนื้อหาทุกบทความของทางบริษัทฯ
กรณีต้องการนำข้อมูลไปใช้หรืออ้างอิง กรุณาติดต่อทีมงานค่ะผ่าน LINE: @LenyaJewelry ค่ะ