มหัศจรรย์แห่งรัก : Loving Way
นานแสนนานมาแล้ว มีตำนานเล่าขานกันมาในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งว่า มีถนนสั้นๆ เส้นหนึ่ง หากหญิงชายคู่ใดได้มาปั่นจักรยานบนถนนสายนี้ในเวลาเที่ยงคืน โดยผู้หญิงเป็นคนปั่นและผู้ชายเป็นคนซ้อนท้าย จากจุดเริ่มต้นจนกระทั่งสุดทาง โดยจักรยานไม่ล้ม หญิงชายคู่นั้นจะได้ครองรักกันตลอดไป แต่หากเท้าแตะพื้นก่อน ความรักจะไม่สมหวัง
ถนนสายนี้มีชื่อเรียกว่า “Loving Way”
ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องเล่านี้เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไร เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้น หรือเพราะมีหญิงชายคู่ใดเคยปั่นจักรยานผ่านเส้นทางนี้จนเกิดเป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมา รวมทั้ง ไม่มีใครยืนยันได้ว่า ทุกคู่ที่ได้ปั่นจักรยานผ่านเส้นทางสายนี้จะได้ครองคู่กันจริงหรือไม่
แต่ “เขา” และ “เธอ” ก็อยากที่จะพิสูจน์ อาจเพราะความอยากรู้อยากเห็นที่แฝงด้วยความสนุกสนาน ไม่กลัวความล้มเหลว ดังนั้น เที่ยงคืนที่จันทร์กระจ่าง หลังจากติวหนังสือสอบที่คณะแล้ว เขาและเธอตัดสินใจที่จะมาทดลอง
“ไหวแน่นะ ?” ฝ่ายชายถามด้วยความกังวล แต่ฝ่ายหญิงยิ้มมั่นใจ
ชายหนุ่มยิ้ม ล้วงกระเป๋าหยิบกล่องเล็กๆ ใบหนึ่งมาวางไว้ในตะกร้าหน้ารถจักรยาน
“อะไรน่ะ?” หญิงสาวถาม
“ถ้าทำได้...จะเปิดให้ดู”เขาตอบเหมือนจะท้าทาย
“เออ...งั้นเตรียมเปิดได้เลย” ฝ่ายหญิงไม่ยอมแพ้
จักรยานที่มีฝ่ายหญิงเป็นคนปั่นและฝ่ายชายเป็นคนซ้อนท้ายค่อยๆ เคลื่อนไปตามถนน แรกๆ ดูเหมือนว่า ทุกอย่างจะราบรื่น ฝ่ายหญิงสามารถทรงตัวและพาจักรยานที่มีชายหนุ่มที่หนักกว่าเจ็ดสิบกิโลกรัมวิ่งไปข้างหน้าได้ แต่เมื่อไปได้เกือบครึ่งทาง ร่างผอมบางของฝ่ายหญิงก็ดูเหมือนจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้น หลายครั้งที่เธอเกือบจะทรงตัวไว้ไม่อยู่ กล่องที่หน้าตะกร้า ไหลไปตามแรงเหวี่ยงซ้ายทีขวาที
ครึ่งทางที่เหลือจากนั้น ดูจะไม่ง่ายเหมือนตอนแรก หญิงสาวต้องออกแรงมากขึ้น หลายครั้งที่เธอเกือบจะพยุงจักรยานไม่ได้ อีกไม่กี่สิบเมตรก็จะสิ้นสุดถนนแล้ว แต่เธอเกร็งกำลังจนหน้าแดง
“ไหวมั้ย...?” ชายหนุ่มถาม เธอไม่ตอบแต่เม้มริมฝีปากแน่น พยายามเค้นแรงปั่นต่อ แต่แรงก็เริ่มจะหมดแล้ว
จู่ๆ เขาก็ยื่นเท้าสองข้างมาช่วยถีบบันไดจักรยาน
“ประคองแฮนด์รถไว้นะ” เขากระซิบ
แรงถีบของชายหนุ่ม ทำให้จักรยานพุ่งไปข้างหน้า ระหว่างที่รถเคลื่อนไป เธอแอบยิ้ม
จักรยานค่อยๆ เคลื่อนไปจนสุดถนน
เมื่อถึงที่จอดรถ เธอจอดจักรยานหันมามองหน้าเขาแล้วยิ้ม ชายหนุ่มยกนิ้วโป้งให้เธอ
“เยี่ยมมาก เธอทำได้จริงๆ”
“ไม่ผิดกติกาเหรอ ?...” เธอถาม
“ไม่มีข้อห้ามนี่ แล้วก็...ถ้ารักกันก็ต้องช่วยกันสิ” เขาตอบ แล้วหยิบกล่องจากหน้าตะกร้าจักรยานออกมาเปิด
ในนั้นเป็นแหวนวงหนึ่ง ส่องประกายระยิบระยับ หญิงสาวที่กำลังหอบน้อยๆ อยู่ถึงกับตะลึงงัน ชายหนุ่มหยิบแหวนออกมา จับมือหญิงสาวขึ้น แล้วบรรจงสวมแหวนใส่นิ้วนาง
“สุขสันต์วันวาเลนไทน์” ชายหนุ่มกล่าว หญิงสาวยิ้มเขิน
...
จักรยานที่เขาปั่นและเธอซ้อนค่อยๆ เคลื่อนไปในแสงไฟริมทาง ความรักส่องสว่างในใจทั้งสอง
VVV
VV
V
มหัศจรรย์แห่งรัก : Trimurati
“ตรีมูรติ” คือนามของเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในศาสนาฮินดู เนื่องจากเป็นองค์รวมของพระพรหม(ผู้สร้าง) พระนารายณ์(ผู้ดูแลรักษา) และพระศิวะ(ผู้ทำลาย) ดังนั้นจึงมีพลังอำนาจสูงสุด สามารถดลบันดาลให้เกิดความสมหวังแด่ผู้สักการะบูชาได้ทุกประการ รวมไปถึงเรื่องของ “ความรัก”ด้วย
ใครหลายคนอาจจะมองว่าเรื่องความเชื่อในการอธิษฐานหรือขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นเรื่องงมงาย แต่ความเชื่อนั้น หากทำให้ความรุ่มร้อนกังวลได้สงบระงับและสร้างพลังให้เกิดขึ้นแก่จิตใจแล้ว ก็ย่อมชักนำชีวิตให้เดินต่อไปได้อย่างมีความหวัง
แม้จะเป็นตำนาน ความเชื่อ หรือเรื่องเล่าที่ไม่มีอะไรอ้างอิง แต่ชายหนุ่มก็เชื่อว่า การที่เขานำแหวนที่เขาเตรียมไว้เพื่อหมั้นเธอ มาบูชาขอพรจากเทวรูปตรีมูรติทุกเย็นหลังเลิกงานจะทำให้เขาสมหวังตามที่ตั้งใจ...
สามปีที่แล้ว เธอจากเขาไปเพื่อเรียนต่อ เธอเป็นคนมุ่งมั่นจริงจังมาแต่ไหนแต่ไร เขามั่นใจว่าเธอจะต้องคว้าปริญญาเอกกลับมาได้แน่นอน แต่สิ่งที่เขากังวลคือ ระยะทางที่ห่างกันและโลกที่กว้างขึ้นของเธอ เพราะเมื่อเธอได้พบกับผู้คนที่หลากหลาย จากสังคมที่มีวัฒนธรรมที่เปิดกว้าง น่าตื่นตาตื่นใจ มันย่อมทำให้ชีวิตของเธอห่างจากเขาออกไปเรื่อยๆ
“เรื่องที่เราเคยถามเธอวันก่อน ?...” เขาถามเธอในวันที่ไปส่งที่สนามบิน
“ไม่รู้สิ” เธอตอบยิ้มๆ “ต้องเรียนให้จบก่อน เราถึงจะคิดเรื่องอื่น”
“ถ้าเธอกลับมา แล้วเธอยังไม่มีคนใหม่ เราจะ...” เขาพูดค้างไว้ แต่ดูเหมือนเธอจะรู้ว่าเขาจะพูดอะไร
“ไปแล้วนะ” เธอยิ้ม จับมือเขา ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
ตลอดสามปีที่ผ่านมา เธอกลับประเทศไทยเพียงแค่ครั้งเดียว และเขาได้พบกับเธอแค่ชั่วโมงเดียว เพราะเธอมีเรื่องที่ต้องทำ มีคนที่จะต้องไปพบ และมีสถานที่ที่จะต้องไปมากมายหลายแห่ง ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นคงจะบอกเลิกกับเธอไปนานแล้ว แต่เขากลับเข้าใจและยอมรับในสิ่งทีเธอเป็น
แต่สิ่งที่เขากังวลก็เป็นจริง...ในเฟซบุ๊คและอินสตราแกรมของเธอ เขาพบกับผู้ชายชาวต่างชาติ 3-4 คนที่แวะเวียนมาถ่ายรูปคู่กับเธอเป็นประจำ และบางคนดูจะสนิทสนิมกับเธอเป็นพิเศษเสียด้วย
“พวกมาตามจีบน่ะ ก็มีอเล็กซ์เป็นอเมริกัน คนนี้เรียนด้วยกัน รวยมากกกก...ไมเคิล คนนี้เป็นอิตาลี พ่อเขาเป็นรัฐมนตรีด้วยนะ...ฟรองซัวร์ หนุ่มฝรั่งเศสคารมสุดยอด เจอกันทีไรมีของขวัญมาให้ตลอด แล้วก็...เบน หนุ่มลูกครึ่งอังกฤษไทย หน้าฝรั่งแต่พูดไทยชัดแจ๋ว คนนี้สนิทสุด ชอบไปหาอาหารไทยกินกัน เขาทำธีสิสเรื่องเมืองไทยด้วยนะ” เธอส่งข้อความตอบมาทางเฟซบุ๊ค เมื่อเขาเลียบเคียงถามถึงหนุ่มๆ ที่เธอถ่ายรูปด้วย
เธอเป็นคนมีเสน่ห์ เอาจริงเอาจัง กระตือรือร้น แต่ก็ร่าเริงสดใส ผู้ชายคนไหนกันจะอดใจไม่ชอบเธอได้ เขารู้ดีว่า เขาไม่มีอะไรจะไปเทียบกับชายหนุ่มเหล่านั้นได้เลย สำหรับผู้ชายที่เรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาเปิดอย่างเขา มีเพียงความขยัน ซื่อตรง และมั่นคงในความรักเท่านั้น ที่เขาเชื่อมั่นว่าเขามีมันมากพอที่จะสู้กับผู้ชายคนไหนก็ได้ในโลก
ทุกเย็นหลังเลิกงานเขาจะมาที่เทวรูปตรีมูรติ นั่งลง พนมมือโดยถือกล่องเล็กๆ ใบนี้ไว้ด้วย เขาอธิษฐานขอให้เธอสำเร็จการศึกษาตามที่มุ่งหวัง และให้เธอได้พบกับคนที่คู่ควร แต่หากเธอยังไม่มีใคร เขาจะใช้แหวนวงนี้ขอเธอแต่งงาน
ตลอดสามปีที่ผ่านมา เขาทำอย่างนี้เป็นประจำจนกลายเป็นกิจวัตร แม้แต่วันที่ฝนตก ขณะที่ลานหน้าเทวรูปว่างเปล่า เขายังยืนกางร่มพนมมือประคองกล่องขอพร
เย็นวันหนึ่งหลังเลิกงาน เขารู้สึกยินดีและห่อเหี่ยวไปพร้อมๆ กัน เมื่อเธอส่งข้อความมาบอกว่า เธอสำเร็จการศึกษาแล้ว แต่จะยังไม่กลับ อยากจะขออยู่เที่ยวต่อกับเพื่อนๆ ก่อนสัก 2-3 เดือน หรืออาจจะนานกว่านั้น เพราะมีเพื่อนชวนให้ไปเที่ยวยุโรปด้วย
“ไปเที่ยวยุโรปกับเพื่อนชายเหล่านั้น ?” เขาคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แน่นอน เขาดีใจมากที่เธอเรียนจบแล้ว แต่เขาก็เริ่มจะแน่ใจแล้วว่า แม้จะกลับมาเมืองไทย แต่ “ใจ”ของเธอคงไม่กลับมาด้วย บางที...นี่คงจะเป็นวันสุดท้ายที่เขาจะมาไหว้เทวรูปตรีมูรติ อย่างน้อย คำขอของเขาก็สมปรารถนาหนึ่งข้อแล้วนั่นคือเธอได้เรียนจบปริญญาเอกตามที่เธอต้องการ
ขณะที่เขาหยิบกล่องใส่แหวนออกมาและเตรียมจะนั่งลง เขาก็ต้องประหลาดใจและดีใจเป็นที่สุด เมื่อ “เธอ”มาปรากฎตัวอยู่ตรงหน้า เขาอยากเข้าไปกอดเธอให้สมกับที่คิดถึง แต่เขาก็ไม่ทำเพราะเขารู้จักเธอดี เขาจึงเพียงแค่ยิ้ม
“ไม่ได้ไปเที่ยวยุโรปกับเพื่อนๆ เหรอ?” เขาถาม
“มาเซอร์ไพรส์ไง ยุโรปน่ะไว้ไปทีหลังก็ได้...ได้ข่าวว่ามาที่นี่ทุกวันเลยเหรอ?” เธอยิ้มมีเลศนัย
“ใช่...แต่คงจะมาวันสุดท้ายแล้วล่ะ เพราะเธอเรียนจบตามที่เราขอพรให้แล้ว”
“แล้ว...พรอีกข้อล่ะ เธอเคยบอกเราว่า เธอขอพรไว้สองข้อนี่?”
เขายิ้มเจื่อนๆ ไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไรดี เธอหันไปมองเทวรูปตรีมูรติ แล้วหันมายิ้มให้เขา
“เราเรียนจบแล้วนะ แล้วเราก็กลับมาแล้วด้วย ทำไมยังไม่ขอเราแต่งงานอีกล่ะ ?”
เขามองหน้าเธอด้วยความงุนงง ไม่คิดว่าเธอจะจำได้ แต่ยังไม่ทันพูดอะไร เธอก็คว้ากล่องในมือเขาไปเปิดออก ข้างในเป็นแหวนวงหนึ่งส่องประกายแวววาว
“สวมให้เราสิ”
เขาหยิบแหวนออกมาบรรจงสวมแหวนให้เธอ เขาและเธอมองตากันก่อนจะค่อยๆ กอดกันนิ่งและเนิ่นนาน...
.....
ตอนนี้...พลังรัก...ของคุณยังเต็มเปี่ยมอยู่หรือเปล่า
ไม่ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไร
พลังรักนั้นยังคงลึกลับ ซับซ้อนอย่างน่ามหัศจรรย์
มากกว่าแค่ ตามองตา ใจถึงใจ หรือเพียงแค่กุมมือ... และนี่คือสื่อรักแทนหัวใจ
รักแท้ยังมีอยู่จริง เชิญสัมผัสได้ที่นี่ เครื่องประดับจาก Lenya Thai
บทความดังกล่าวข้างต้นจัดทำโดยทีมงาน บริษัท เลนญ่า จิวเวลรี่ จำกัด ทางเราจึงขอสงวนสิทธิ์ การคัดลอกเนื้อหาทุกบทความของทางบริษัทฯ
กรณีต้องการนำข้อมูลไปใช้หรืออ้างอิง กรุณาติดต่อทีมงานค่ะผ่าน LINE: @LenyaJewelry ค่ะ