เงินเป็นโลหะชนิดหนึ่งที่มีสีขาวเงิน ในสมัยโบราณโลหะที่มีความสำคัญมากที่สุดต่อมนุษย์ก็คือ ทองคำ เนื่องจากให้ความหมายว่า สมบูรณ์ แต่ถึงแม้ว่าโลหะทองคำนั้นจะเป็นอันดับหนึ่ง แต่โลหะเงินก็ไม่เป็นรองสักเท่าไหร่ เพราะในยุคก่อนประวัติศาสตร์นั้นโลหะเงินมีความสำคัญมากทีเดียว และมนุษย์ก็นิยมนำโลหะเงินมาทำเป็นเครื่องประดับ เพื่อความสวยงามอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีความเชื่อลึกลับเกี่ยวกับโลหะเงิน เนื่องจากตัวเนื้อเงินนั้นมีสี และประกายเหมือนดั่งแสงของพระจันทร์ เพราะเป็นสีแห่งความบริสุทธิ์
ลักษณะของเงิน
ลักษณะของเงินนั้นจะทึบแสง มีสีขาว และแข็งกว่าทองคำเล็กน้อย เมื่อนำเงินไปขัดเงาจะได้เนื้อเงินทีมีลักษณะเงาวับเป็นประกาย นอกจากนั้นเงินยังเป็นสื่อนำกระแสไฟฟ้าที่ดีที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับโลหะชนิดอื่นๆ
คุณภาพของเงิน
เงินที่คุณภาพดีจะต้องมีเป็นโลหะเงินที่บริสุทธิ์ 99.99% แต่ที่มนุษย์นิยมนำมาใช้ทำเครื่องประดับนั้นจะอยู่ที่ 92.5% หรือที่เราเรียกกันว่า เงิน925 (Sterling Sliver) และที่เหลือจะเป็นโลหะชนิดอื่นผสมอยู่ในตัวเงิน
คุณสมบัติของเงิน
โลหะเงินบริสุทธิ์ที่นั้นจะต้องมีคุณสมบัติที่ อ่อนเหนียว สามารถตีแผ่ออกเป็นเส้นบางๆ และดึงหรือยืดออกเป็นเส้นได้เป็นอย่างดี สามารถนำความร้อนและไฟฟ้าได้ดี เนื่องจากเงินบริสุทธิ์มีความอ่อนนิ่มมากเกินไป ทั้งยังไม่มีความแข็งแรงเท่าที่ควร เราจึงไม่นิยมนำเงินบริสุทธิ์มาใช้ในการผลิตเครื่องประดับ แต่มนุษย์ก็รู้จักและคิดค้นวิธีทางวิทยาศาสตร์ โดยการนำโลหะชนิดอื่นๆ เข้าไปผสมกับเงินบริสุทธิ์ เพื่อให้เงินมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ส่วนโลหะที่นิยมนำไปผสมกับเงินมากที่สุดคือ ทองแดง เพราะช่วยแปรสภาพของเงินให้มีคุณสมบัติที่แข็งขึ้น และยังทำให้ชิ้นงานสามารถทนต่อรอยขีดข่วนมากขึ้นอีกด้วย
ส่วน เงิน 925 (Sterling Silver) นั้นคือ สัดส่วนมาตรฐานสากลทั่วโลกในวงการเครื่องประดับจำเป็นต้องใช้เงิน 92.5% เพื่อผลิตเครื่องประดับ เนื่องจากเงินบริสุทธิ์นั้นมีลักษณะที่อ่อนตัวมากเกินไป และยังมีความแข็งแรงทนทานน้อย จึงทำให้เงินบริสุทธิ์ไม่เหมาะนำมาทำเครื่องประดับ ส่วนเงิน 92.5% นั้น ต้องส่วนผสมของทองแดงหรืออัลลอย์ เพิ่มไปในเนื้อเงินอีก 7.5% เพื่อให้เงินมีความแข็งแรง ไม่อ่อนนิ่มง่าย แถมยังส่งผลให้เนื้อเงินที่ได้นั้นมีลักษณะเป็นสีขาวแวววาวอีกด้วย แต่ด้วยคุณสมบัติของเงินนั้น เมื่อสัมผัสกับอากาศที่มีซัลเฟอร์อยู่ จะทำให้ผิวของเครื่องประดับเงินนั้นเกิดความหมองคล้ำ และดำลงเมื่อเวลาผ่านไป
ดังนั้น ทางอุตสากรรมส่วนใหญ่จึงนิยมนำโลหะมีค่าชนิดอื่นที่มีคุณสมบัติแวววาวมาชุบเคลือบตัวเงิน 925 เพื่อให้เครื่องประดับเงินที่ผ่านขั้นตอนการชุบมีความวาวอยู่นานกว่า เงินที่ไม่ได้ผ่านการชุบหรือเคลือบด้วยโลหะใดๆ สำหรับโลหะมีค่าที่นิยมนำมาชุบหรือเคลือบเงินนั้นมีหลายชนิด เช่น โรเดียม, ทองคำ
วิธีการเลือกซื้อเครื่องประดับเงิน
น้ำหนัก |
ลองหยิบขึ้นมาวางบนฝามือ แล้วลองโยนขึ้นลงดูพอให้รู้ว่ามีน้ำหนักหรือไม่ ถ้าพอมีน้ำหนักแบบหน่วงๆก็อาจจะป็นข้อสันนิฐานแรกว่าใช้ของแท้ค่ะ |
ตราประทับ 925 |
เครื่องหมายตราประทับบ่งบอกว่าเป็นเงินกี่เปอร์เซ็นต์ หากสินค้าเป็นของจริง ส่วนใหญ่แล้วจะมักทำเครื่องหมายตราประทับบ่งบอกที่ตัวเครื่องประดับว่าเป็นเงิน 925 |
สี |
สีจะต้องเป็นสีขาว เงาวาว หากเป็นสีขาวอมเหลือง หรือขาวอมแดง อาจจะเป็นของปลอมได้ |
ราคา |
ราคาจะต้องไม่ถูกจนเกินไป เพราะถ้าถูกจนเกินไปอาจจะเป็นของปลอมได้ |
เสียง |
ทดสอบได้โดยการใช้เหรียญ หรือโลหะชนิดอื่นเคาะแล้วลองฟังเสียง เงินแท้จะมีเสียงที่แหลมสูงและก้องนานประมาณ 1-2 วินาทีค่ะ |
กรดไนตริก |
ทดสอบโดยการใช้กรดอาจจะเป็นการเสี่ยง แต่ก็มีความน่าเชื่อถือเช่นเดียวกัน โดยหารอยขีดข่วนที่เครื่องประดับเงิน หากไม่มีก็ต้องทำรอยขึ้นมา แล้วลองหยดกรดไนตริกลงไปทดสอบแล้วสังเกต หากเนื้อเงินเป็นสีเทา แสดงว่าเป็นเงินแท้ค่ะ |
แม่เหล็ก |
ลองนำแม่เหล็กมาทดสอบกับเครื่องประดับเงินดู ถ้าเป็นเงินแท้จะไม่ดูดติดกับแม่เหล็กค่ะ |
ร้านค้า |
ต้องเลือกซื้อสินค้าจากร้านที่มีความน่าเชื่อถือ |
ใบรับประกันสินค้า |
สินค้าที่ซื้อจากร้านค้าควรมีใบรับประกันสินค้า ว่าสินค้าชิ้นนั้นมีการทดสอบว่าเป็นสินค้าชนิดใด ประเภทใดอย่างถูกต้อง |
วิธีการล้างเครื่องประดับเงิน
ใช้น้ำยาล้างจิวเวลรี่ผสมกับน้ำร้อน แล้วนำเครื่องประดับเงินลงไปแช่ไว้จนกว่าน้ำจะมีอุณหภูมิปกติ จากนั้นให้นำแปรงสีฟันขนอ่อนมาขัดที่ตัวเรือนเบาๆ และล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นใช้ผ้านุ่มๆเช็ดให้แห้ง การเก็บรักษาให้หลีกเลี่ยงจากฝุ่น ความชื้น เหงื่อไคล และเครื่องสำอางค์ต่างๆ อาจจะเก็บไว้ในกล่อง หรือถุงผ้านิ่มๆ เพื่อแยกเป็นสัดส่วน และไม่ทำให้ตัวเรือนเกิดรอยขีดข่วน
วิธีการเก็บรักษาเครื่องประดับเงิน
กระดาษทึบแสง |
เมื่อทำความสะอาดเครื่องประดับเงินให้สะอาด และเช็ดให้แห้งดีแล้ว ให้นำกระดาษทึบแสงมาห่อเครื่องเงินไว้ เมื่อแกะออกมาใส่ครั้งต่อไปเครื่องประดับเงินก็จะยังดูสดใสเหมือนเดิมค่ะ |
ถุงซิปล็อคพลาสติก |
หลังจากที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ให้เก็บเครื่องประดับเงินในถุงซิปล็อคพลาสติก เพื่อป้องกันอากาศเข้า ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เครื่องประดับเงินหมองคล้ำ และโอกาสที่เครื่องประดับเงินของคุณจะดำก็มีน้อยลงค่ะ |
แยกเครื่องประดับ |
ควรเก็บเครื่องประดับเงินแยกชิ้นกัน เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนของเครื่องประดับซึ่งกันและกัน |
บทความดังกล่าวข้างต้นจัดทำโดยทีมงาน บริษัท เลนญ่า จิวเวลรี่ จำกัด ทางเราจึงขอสงวนสิทธิ์ การคัดลอกเนื้อหาทุกบทความของทางบริษัทฯ
กรณีต้องการนำข้อมูลไปใช้หรืออ้างอิง กรุณาติดต่อทีมงานค่ะผ่าน LINE: @LenyaJewelry ค่ะ